Introduction to French.. ภาษาฝรั่งเศสพื้นฐาน.
เอาล่ะ คราวนี้เราจะเริ่มกันดุเลยดีกว่า ว่า
ภาษาฝรั่งเศสนี้มันเป็นยังไงกันแน่..
La langue française (ลา-ลองก์-ฟรอง-แซส) ภาษาฝรั่งเศส
เรามาเริ่มจากอักขระในภาษาฝรั่งเศสกันก่อนเลย
มีทั้งหมด
26 ตัว เหมือนภาษาอังกฤษเลย เพียงแค่ออกเสียงแตกต่างกันเท่านั้นเอง
ลองดูแล้วออกเสียงตามนะครับ
L’alphabet français (ลัล-ฟา-เบ-ฟรอง-เซ่) อักขระภาษาฝรั่งเศส
a
|
อา
|
n
|
แอ็น (กระดกลิ้น)
|
b
|
เบ
|
o
|
โอ
|
c
|
เซ
|
p
|
เป
|
d
|
เด
|
q
|
กู
|
e
|
เออ
|
r
|
แอค์
|
f
|
อาฟ(เสียงยาว)
|
s
|
แอส
|
g
|
เช
|
t
|
เต
|
h
|
อาช
|
u
|
อู
|
i
|
อี
|
v
|
เว
|
j
|
ฌี
|
w
|
ดูเบลอะ เว
|
k
|
กา
|
x
|
อิกซ์
|
l
|
แอล (กระดกลิ้น)
|
y
|
อิแกร็กค์
|
m
|
แอ็ม (กระดกลิ้น)
|
z
|
แซด
|
**หมายเหตุ**
ในการออกเสียงพยัญชนะของภาษาฝรั่งเศสนั้นจะออกเสียงตามตัวตามตารางเลย แต่ตัวที่มักจะมีปัญหาอยู่เสมอๆนะสิ นั้นคือตัว
R Q U นะสิ เรามาเริ่มดูที่ละตัวกันเลย
Q U
สองตัวนี้ออกเสียงคล้ายกัน แต่จริงๆแล้วไม่ได้ออก
กู หรือ อู หรอกนะ การที่จะออกเสียงทั้งสองตัวนี้ต้องห่อลิ้นและออกเสียง กู+กี
ผสมกันอย่างรวดเร็ว ก็จะได้เป็นเสียง Q แล้ว ในกรณีเดียวกัน U
ที่ออกเสียงอู ก็ต้องห่อลิ้นและออกเสียง อู+อี
เร็วๆ เช่นเดียวกัน
R
มาถึงสุดยอดตัวปัญหาแห่งภาษาฝรั่งเศสแล้ว
เพราะตัวนี้นี้เองที่ทำให้หลายๆคนถึงกับเจ็บคอกันเลย เพราะในการออกเสียงของตัว R
นั้นจำเป็นที่ต้องขากเสลด(เบาๆนะ) อยู่เสมอๆ อย่างเช่นคำที่คุ้นเคยกันดีอย่าง Bonjour
ที่ตัวสุดท้ายเราต้องออกเสียง แอค์ให้ชัดด้วยการขาดเสลดด้วย (บง-ชูว์(ขากเสลดที่เสียงตัวrท้ายคำ))
**แต่ทว่า
มันมีที่ง่ายดายกว่านั้นเยอะ การที่เราจะมานั่งขากเสลดเพื่อออกเสียงตัว R อยู่ตลอดมันก็ไม่ใช่ เพราะลิ้นของเราไม่เหมือนกับฝรั่ง
ดังนั้นแล้วลองเปลี่ยนมาเป็นการออกเสียง /ค/ แทนการขากเสลด เช่น คำว่า rouge /คูช / -แปลว่าสีแดง ก็จะทำให้เราออกเสียงได้ง่ายขึ้นมากเลย
Les consonnes (เล-กงซอนน์) พยัญชนะ
ก็ทั้ง26 ตัวนั้นแหละ
แต่จะมีเพียงบางตัวเท่านั้นที่จะสามารถออกไปเป็นสระได้ด้วย
Les voyelles (เล-โว-แยล) สระ
แบ่งได้เป็นสองชนิดนะ
1. Voyelles simple (โว-แยล-แซ็ง(เปลอะ))
สระเดี่ยวนั้นเอง
A ออกเสียงเป็น สระอา เช่น papa
(ปา-ปา)
E ออกเสียงเป็น สระเออ เช่น le(เลอ),de(เดอ)
I ออกเสียงเป็น สระอี เช่น paris(ปา-คี)
O ออกเสียงเป็น สองแบบ 1.เสียงโอ เช่น
robot (โค-โบ)
2.เสียงออ เช่น robe (ค้อบ)
U ออกเสียงเป็น สระอู เช่น tu(ตู) **ต้องออกเสียง
อู+อีเสมอนะ
Y ออกเสียงเป็น สระอี เช่น pays
(เป-อี) **ถ้าy ทำหน้าที่เป็นพยัญชนะและมีสระต่อมา เสียงของy เปลี่ยนเป็น
/ย/ เช่นคำว่า yeux (เยอ)
2. Voyelles composes (โว-แยล-กง-โป-เซ่)
สระผสมมีดังนี้
an,en,em
|
ออง
|
ans(ออง),sentir(ซอง-ตีค์)
|
on,om
|
อง
|
bon(บง),nom(นง)
|
ou
|
อู
|
fou(ฟู)
|
oi,oy
|
อัว
|
loi(ลัว),moi(มัว)
|
oin
|
อวง
|
coin(กวง)
|
ain,ein,in
|
แอ็ง
|
pain(แป็ง),main(แม็ง)
|
un,um
|
อัง,เอิง
|
lundi(เลิง-ดิ)
|
ail
|
ไอย์
|
travail(ทรา-ไวย์)
|
ei,ai
|
แอ
|
naige(แน็ช)
|
eil
|
แอย์(ตัวนี้จะออกเน้นเสียง/ย์/ และออกเสียงเร็วเหมือนว่าเป็นสระ
ไอย์ผสมกับเออย เลย)
|
soleil (ซอ-ไลย์) ออกเสียง แอ+เออ ไวๆ
|
el
|
แอล
|
elle (แอล)
|
ie
|
อี
|
vie (วี)
|
eu,oe,eur
|
เออ
|
coeur (เกอ)
|
ien
|
เอียง
|
rien(เคียง)
|
ienne
|
เอียน
|
mienne(เมียน)
|
euil
|
เออย
|
fauteuil(โฟ-เตอย)
|
au,eau
|
โอ
|
faux(โฟ)
|
ซึ่งในการอ่านออกเสียงนั้นจำเป็นที่จะต้องรูปแบบของสระได้ทั้งหมด
แต่ภาษาฝรั่งเศสออกเสียงง่ายตรงที่สระเสียงใดก็ออกเสียงนั้น ไม่มีพลิกมากมายนั้น(ในบางกรณี)
เคล็ดลับในการออกเสียง
ถ้าเราจำสระได้ทั้งหมดแล้วที่นี้ก็สบายเราแล้วล่ะ
เพราะภาษาฝรั่งเศสออกเสียงตรงตัว แต่ผมมีวิธีดีๆที่จะช่วยให้ออกเสียงได้ง่ายขึ้นมาฝากกันครับ
วิธีที่ว่านั้นคือการแยกจับคู่
พยัญชนะ+สระเป็นคู่ๆกันไปครับ
ตัวอย่างเช่น
Cheveux คำนี้แปลว่าเส้นผมครับ
เรามาลองใช้วิธีอย่างที่ผมบอกกันนะครับ เราก็จะแยก โดยการจับพยัญชนะ+สระได้1พยางค์และแยกออกมา และทำอย่างนี้เหมือนเดิม(ในกรณีมีหลายพยางค์)
ก็จะได้เป็น
Che/veux เชอ-เฟอร์
ตามเสียงเลยครับ ch
ออกเสียง /ซ/+e ที่ออกเสียงเออ เป็น
เชอ ส่วน v ออกเสียงเป็น
/ฟ/+กับ eux ที่ออกเสียงเออ กลายเป็น เฟอร์ จากนั้นเอาพยางค์ทั้งหมดมารวมกันก็จะได้ เชอ-เฟอร์!! แค่นี้เองง่ายใช่ไหมล่ะ?
/ฟ/+กับ eux ที่ออกเสียงเออ กลายเป็น เฟอร์ จากนั้นเอาพยางค์ทั้งหมดมารวมกันก็จะได้ เชอ-เฟอร์!! แค่นี้เองง่ายใช่ไหมล่ะ?
Les liaisons (เล ลี แย ซง)
การเชื่อมเสียง
ในภาษาฝรั่งเศสเรื่องการเชื่อมเสียงเป็นสิ่งที่สำคัญมากๆเลยนะ
มันจะทำให้ดูเหมือนกับการพูดนั้นต่อเนื่องไพเราะ ซึ่งการเชื่อมนี้โดยการนำเอาพยัญชนะตัวสุดท้าย
ส่งเสียงของตัวนั้นไปยัง คำต่อไปที่ขึ้นต้นด้วยสระเท่านั้น!
เช่น
Je vous aime (เฌอ-วู-แซม)
Il a sept ans
(อิล-ลา-เซต-ตอง)
จะสังเกตได้ว่า
เสียงจากตัวสุดท้าย(ขีดเส้นใต้) ส่งเสียงของตัวมันเชื่อมเสียงให้กับคำต่อไป(ตัวหนา)
สิ่งนี้แหละเป็นสิ่งสำคัญของภาษาฝรั่งเศสเลยนะ.. ลองฝึกกันดูนะ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น